ตำนานเรื่อง Bigfoot หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ซัสแควช” (Sasquatch) เป็นหนึ่งในตำนานสัตว์ประหลาดที่โด่งดังที่สุดในอเมริกาเหนือ Bigfoot ถูกเล่าขานว่าเป็นสัตว์คล้ายมนุษย์ขนาดใหญ่ที่มีขนปกคลุมทั่วตัว และเดินสองขาเหมือนมนุษย์ ตำนานนี้แพร่หลายในพื้นที่ป่าลึกและภูเขาของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เรื่องราวของ Bigfoot ยังคงสร้างความตื่นเต้นและขนลุกให้กับผู้ที่เชื่อในตำนานนี้และผู้ที่พยายามหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์การมีอยู่จริงของมัน
ลักษณะของ Bigfoot
ตามคำบอกเล่าของผู้ที่อ้างว่าพบเห็น Bigfoot ตัวสัตว์มีความสูงระหว่าง 7 ถึง 10 ฟุต และหนักกว่า 500 ปอนด์ มีลักษณะคล้ายมนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์ที่มีขนยาวหนาปกคลุมทั่วตัว ขนของ Bigfoot มักจะเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือดำ ตัวสัตว์มีเท้าใหญ่และทิ้งรอยเท้าไว้บนดิน ซึ่งรอยเท้านี้กลายเป็นหลักฐานสำคัญที่ถูกใช้ในการค้นหาและวิจัย โดยรอยเท้าของ Bigfoot มีความยาวประมาณ 24 นิ้ว และกว้างถึง 8 นิ้ว Bigfoot ถูกเล่าขานว่ามีความสามารถในการซ่อนตัวและหลบซ่อนจากมนุษย์ได้อย่างชาญฉลาด มันมักอาศัยอยู่ในป่าลึกหรือภูเขาที่มนุษย์เข้าถึงได้ยาก Bigfoot ถูกอธิบายว่ามีลักษณะสงบนิ่ง ไม่ก้าวร้าวต่อมนุษย์ แต่บางครั้งก็มีรายงานว่ามันทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกกลัวหรือถูกคุกคาม
ที่มาของตำนาน Bigfoot
ตำนานเกี่ยวกับสัตว์ลึกลับขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ในป่าลึกนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในอเมริกาเหนือ ชนพื้นเมืองอเมริกันหลายเผ่ามีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้าย Bigfoot ตัวอย่างเช่น ชาวอินเดียนแดงเผ่า Salish ในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือเล่าว่าพวกเขาเคยเห็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่และเดินสองขาในป่า ชื่อ “ซัสแควช” (Sasquatch) มาจากภาษาของชาวอินเดียนเผ่า Coast Salish ซึ่งใช้เรียกสัตว์ป่าที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์ในพื้นที่แถบนี้ ตำนานเกี่ยวกับซัสแควชและสิ่งมีชีวิตลึกลับอื่นๆ กลายเป็นเรื่องเล่าขานในภูมิภาคนี้มาเป็นเวลาหลายศตวรรษก่อนที่ชื่อ “Bigfoot” จะถูกใช้ในสื่อสมัยใหม่ ชื่อ “Bigfoot” เริ่มเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายในปี 1958 เมื่อมีการค้นพบรอยเท้าขนาดใหญ่ในพื้นที่ป่า Bluff Creek รัฐแคลิฟอร์เนีย รอยเท้านี้ถูกพบโดยคนงานก่อสร้างที่ทำงานอยู่ในบริเวณนั้น ข่าวการค้นพบนี้ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อ ทำให้เกิดความสนใจและการสำรวจเพื่อค้นหาตัว Bigfoot ในเวลาต่อมา
หลักฐานและการค้นพบ
หนึ่งในหลักฐานสำคัญที่สุดที่สนับสนุนการมีอยู่ของ Bigfoot คือ รอยเท้าขนาดใหญ่ ที่ถูกพบในป่าหลายแห่งในอเมริกาเหนือ รอยเท้าเหล่านี้มักจะมีขนาดใหญ่มากจนไม่น่าเชื่อว่ามันจะเป็นของมนุษย์ อีกทั้งยังถูกพบในพื้นที่ที่ห่างไกลจากที่อยู่อาศัยของมนุษย์ ในปี 1967 คลิปวิดีโอที่ถูกอ้างว่าเป็นภาพของ Bigfoot ถูกบันทึกไว้โดย Roger Patterson และ Bob Gimlin ที่ Bluff Creek รัฐแคลิฟอร์เนีย วิดีโอนี้กลายเป็นหลักฐานที่มีชื่อเสียงที่สุดในการอ้างอิงถึงการมีอยู่ของ Bigfoot ภาพในวิดีโอแสดงถึงสิ่งมีชีวิตที่เดินสองขา มีขนปกคลุมทั่วตัว และมีท่าทางคล้ายมนุษย์ แต่มีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ทั่วไป วิดีโอนี้ถูกวิเคราะห์และวิจารณ์มาเป็นเวลาหลายปี แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าภาพในวิดีโอเป็น Bigfoot จริงหรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีรายงานการพบเห็น Bigfoot จากผู้คนทั่วอเมริกาเหนือ โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าและภูเขา เช่น ในรัฐวอชิงตัน โอเรกอน และบริติชโคลัมเบีย แต่หลักฐานที่เป็นรูปธรรมยังคงขาดหาย หลายครั้งที่การพบเห็นเป็นเพียงเรื่องเล่า หรือรอยเท้าที่สามารถถูกทำลายหรือหายไปได้อย่างง่ายดาย
วิทยาศาสตร์กับ Bigfoot
แม้ว่าจะมีการค้นพบรอยเท้าและรายงานการพบเห็น Bigfoot เป็นจำนวนมาก แต่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ยังคงสงสัยและไม่เชื่อในเรื่องนี้ นักวิจัยหลายคนมองว่าตำนาน Bigfoot อาจเป็นเพียงการเข้าใจผิดของมนุษย์เมื่อพบเห็นสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น หมี ที่เดินสองขา หรืออาจเป็นเพียงเรื่องเล่าและการปลอมแปลง การขาดหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถตรวจสอบได้ เช่น DNA หรือซากของ Bigfoot ทำให้ทฤษฎีเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดนี้ยังคงอยู่ในขอบเขตของความเชื่อและตำนาน นักชีววิทยาและนักสัตววิทยาบางคนเชื่อว่า Bigfoot อาจเป็นการอ้างอิงถึงสัตว์ดึกดำบรรพ์อย่าง Gigantopithecus ลิงขนาดใหญ่ที่สูญพันธุ์ไปแล้วในหลายล้านปีก่อน
ทฤษฎีสมคบคิด
เนื่องจากขาดหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับการมีอยู่ของ Bigfoot ทำให้มีทฤษฎีสมคบคิดหลายเรื่องเกิดขึ้นเกี่ยวกับการปิดบังข้อมูลหรือการปกปิดหลักฐานจากรัฐบาล บางคนเชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐอาจรู้เรื่อง Bigfoot แต่เลือกที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลเพื่อป้องกันความตื่นตระหนกของประชาชน หรือเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ที่สัตว์นี้อาศัยอยู่ ทฤษฎีเหล่านี้มักถูกปฏิเสธโดยนักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แต่สำหรับผู้ที่เชื่อในตำนาน Bigfoot การขาดข้อมูลที่ชัดเจนกลับกลายเป็นการยืนยันว่ามีบางอย่างถูกซ่อนเร้นอยู่
Bigfoot ยังคงเป็นหนึ่งในตำนานสัตว์ประหลาดที่มีอิทธิพลต่อจินตนาการของผู้คนทั่วโลก ความลึกลับเกี่ยวกับสัตว์ที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าลึก การพบเห็นที่ไม่สามารถอธิบายได้ และการขาดหลักฐานที่ชัดเจนทำให้ตำนานนี้ยังคงมีชีวิตอยู่ แม้ว่านักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่จะไม่เชื่อในเรื่องนี้ แต่ผู้คนจำนวนมากยังคงสนใจและพยายามค้นหาคำตอบเกี่ยวกับ Bigfoot ความจริงเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดนี้อ
