Stonehenge คือหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่มีชื่อเสียงและลึกลับที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนที่ราบ Salisbury Plain ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ สถานที่นี้เป็นกลุ่มหินโบราณที่มีอายุราว 4,500 ปี ถูกสร้างขึ้นโดยคนในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งจนถึงวันนี้ ยังไม่มีใครสามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนว่ามนุษย์ในยุคนั้นสร้าง Stonehenge ขึ้นมาได้อย่างไร หรือเพื่อวัตถุประสงค์ใด
ประวัติและการสร้าง
Stonehenge ถูกสร้างขึ้นในหลายช่วงเวลา โดยเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงยุคหินใหม่ (Neolithic) และเสร็จสมบูรณ์ในยุคสำริด (Bronze Age) กองหินประกอบด้วยหินสองประเภทหลักคือ Sarsen ซึ่งเป็นหินทรายขนาดใหญ่ และ Bluestone ซึ่งเป็นหินสีน้ำเงินที่ถูกนำมาจากภูเขา Preseli ในเวลส์ ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 240 กิโลเมตร การก่อสร้าง Stonehenge ถูกแบ่งออกเป็นหลายเฟส
- เฟสแรก (ประมาณ 3000 ปีก่อนคริสต์ศักราช): เป็นช่วงที่มีการขุดคูดินล้อมรอบและสร้างวงหินแรกๆ ขึ้น ซึ่งประกอบด้วยไม้และหินเล็กๆ
- เฟสที่สอง (ประมาณ 2500 ปีก่อนคริสต์ศักราช): มีการนำหิน Bluestone มาจากเวลส์ และตั้งเรียงเป็นวงกลมล้อมรอบหินที่ใหญ่กว่า
- เฟสสุดท้าย (ประมาณ 2000 ปีก่อนคริสต์ศักราช): การก่อสร้างเสาหิน Sarsen ที่สูงกว่า 4 เมตรและหนักถึง 25 ตัน ซึ่งถูกตั้งเป็นวงกลมและจัดเรียงเป็นทรงโค้งหินโบราณ (Trilithons)
การขนส่งและการจัดเรียงหิน
หนึ่งในความลึกลับที่ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนคือวิธีที่มนุษย์ในยุคนั้นขนส่งหินหนักมากกว่า 25 ตันจากเวลส์มาสู่ที่ราบ Salisbury Plain นักวิจัยเชื่อว่าพวกเขาอาจใช้วิธีการลากหรือดึงหินบนท่อนไม้ และอาจใช้เรือแพลไม้ในการขนส่งหินผ่านทางแม่น้ำหรือทะเล การตั้งหินขนาดใหญ่เหล่านี้ให้ตรงและคงที่ในตำแหน่งที่ต้องการก็เป็นอีกปริศนาหนึ่งที่ยังไม่สามารถอธิบายได้อย่างแน่ชัด นักวิจัยเชื่อว่าผู้สร้างอาจใช้รางเลื่อน ไม้คาน และการใช้เชือกในการยกและจัดวางหินเหล่านี้
วัตถุประสงค์ของ Stonehenge
มีหลายทฤษฎีที่เสนอถึงวัตถุประสงค์ในการสร้าง Stonehenge บางทฤษฎีได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ในขณะที่บางทฤษฎีเป็นเพียงการคาดเดา
- สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา: Stonehenge อาจเป็นสถานที่ที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชนเผ่าโบราณ หลายคนเชื่อว่าสถานที่นี้อาจเป็นศูนย์กลางทางจิตวิญญาณที่ใช้ในการบูชาเทพเจ้า หรือเป็นสถานที่สำหรับการฝังศพของบุคคลสำคัญ
- หอดูดาวโบราณ: ทฤษฎีนี้ได้รับการสนับสนุนจากการจัดเรียงของหินที่สอดคล้องกับปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ เช่น การเกิดขึ้นของพระอาทิตย์ในช่วงวันเหมายัน (Solstice) และวันที่กลางวันเท่ากับกลางคืน (Equinox) ซึ่งอาจแสดงให้เห็นว่า Stonehenge ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการคำนวณเวลาและฤดูกาล
- ศูนย์กลางการรักษา: บางทฤษฎีเสนอว่า Stonehenge อาจเป็นศูนย์กลางการรักษา ซึ่งผู้คนจากที่ต่างๆ เดินทางมาที่นี่เพื่อรับการรักษา เนื่องจากมีการค้นพบซากโครงกระดูกของผู้คนที่มีบาดแผลหรือโรคภัยในพื้นที่ใกล้เคียง
- ศูนย์กลางทางสังคมและการเมือง: Stonehenge อาจเป็นสถานที่ที่ใช้ในการพบปะและเจรจาของผู้นำชนเผ่า หรือเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและความยิ่งใหญ่ของชุมชนในยุคนั้น
หลักฐานและการวิจัยล่าสุด
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การวิจัยและการขุดค้นทางโบราณคดีที่ Stonehenge ได้ให้ข้อมูลใหม่ๆ ที่ช่วยในการไขปริศนาของสถานที่นี้
- การใช้เรดาร์ในการสำรวจใต้พื้นดิน: การใช้เทคโนโลยีเรดาร์และการสแกนพื้นดินได้ช่วยให้พบหลักฐานของโครงสร้างเพิ่มเติมที่ซ่อนอยู่ใต้ดิน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพื้นที่รอบๆ Stonehenge เคยมีการใช้งานอย่างกว้างขวาง
- การศึกษาทางเคมีของหิน: การวิเคราะห์ทางเคมีของหิน Bluestone ช่วยยืนยันว่าหินเหล่านี้มาจากภูเขา Preseli ในเวลส์ ซึ่งช่วยสนับสนุนทฤษฎีการขนส่งหินผ่านทางน้ำ
- การค้นพบหลุมศพและเครื่องมือ: การค้นพบหลุมศพและเครื่องมือหินที่อยู่ใกล้เคียงช่วยให้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนที่สร้าง Stonehenge
Stonehenge ในวัฒนธรรมสมัยใหม่
ในปัจจุบัน Stonehenge ยังคงเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทั้งในด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ทุกปีมีผู้คนหลายล้านคนเดินทางมาเยี่ยมชมสถานที่นี้เพื่อชื่นชมความงดงามและความลึกลับของมัน Stonehenge ยังเป็นสถานที่ที่จัดงานเทศกาลเฉลิมฉลองในวันเหมายัน ซึ่งดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกมาร่วมพิธี Stonehenge ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของปริศนาและความยิ่งใหญ่ของมนุษย์ในยุคโบราณ แม้ว่าหลายปริศนาเกี่ยวกับสถานที่นี้จะยังคงไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่ Stonehenge ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจถึงความสามารถและความตั้งใจของมนุษย์ในการสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่และยืนยงแม้ในสมัยที่เทคโนโลยียังไม่พัฒนา
Stonehenge เป็นมากกว่าแค่กองหินโบราณ มันเป็นสัญลักษณ์ของความลึกลับและความยิ่งใหญ่ที่มนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ได้สร้างขึ้นมา แม้ว่าเราจะไม่สามารถเข้าใจทุกอย่างเกี่ยวกับ Stonehenge ได้อย่างสมบูรณ์ แต่การวิจัยและการค้นพบใหม่ๆ ยังคงช่วยให้เราได้เข้าใกล้ความจริงมากขึ้นทุกวัน Stonehenge ยังคงเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและปริศนา มันเป็นเครื่องเตือนใจให้เราตระหนักถึงความซับซ้อนและความหลากหลายของวัฒนธรรมมนุษย์ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลังในการศึกษาและรักษามรดกทางวัฒนธรรมของเราให้คงอยู่ต่อไป